ฮีต ๑๒ หรือประเพณี ๑๒ เดือนของชาวอีสาน หากจะพิจารณาถึงพิธีกรรมของภาคอีสานแล้ว ประเพณีที่โดดเด่นส่วนมากมักจะผูกพันและเกี่ยวโยงกับไฟเกือบทั้งหมด เช่น งานแห่เทียนพรรษา บุญบั้งไฟ และพิธีไหลเรือไฟ เพราะคนอีสานมีความเชื่อว่า“ไฟจะช่วยเผาผลาญเอาความชั่วร้ายและขจัดความทุกข์ยากให้แตกสลายไป อีกทั้งเป็นสื่อนำเครื่องสังเวยไปสู่พระผู้เป็นเจ้า”
มูลเหตุที่สำคัญแห่งการไหลเรือไฟของชาวอีสาน เพื่อเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมทานที
พอใกล้ออกพรรษา บรรดาพระภิกษุสามเณรของแต่ละคุ้มวัด ตลอดจนชาวบ้านทุกคนต่างมาเตรียมจัดทำเรือไฟไว้ล่วงหน้าหลายวัน โดยเอาต้นกล้วยทั้งต้นมาเสียบไม้ต่อกันให้ยาวตั้งหลายวาวางขนานกันสองแถวกว้างห่างกันพอประมาณ แล้วนำไม้ไผ่ที่เรียวยาวมาผูกไขว้กันเป็นตารางสี่เหลี่ยม ระยะห่างกันคืบเศษวางราบกับพื้น มัดด้วยลวดให้แน่นและแข็งแรง เพื่อที่จะรอการออกแบบภาพบนแผง ผู้ออกแบบจะแสดงความคิดสร้างสรรค์อย่างสวยงามที่สุด เช่น ประดิษฐ์เป็นเรื่องราวตามพระพุทธประวัติบ้าง เป็นสัตว์ในตำนาน อาทิ พญาครุฑ นาค หงส์ เป็นต้น แล้วนำไปปักติดเป็นเสาบนแพหยวกกล้วย
หลังจากการเวียนเทียนเสร็จใ นวันออกพรรษาที่วัดไทย(ทุกว ัดจะมารวมกัน) อ.โพนพิสัย แล้ว พระเณรส่วนหนึ่ง พร้อมด้วยชาวบ้านก็จะนั่งเร ือหางยาวนำเรือไฟที่ทำด้วยก าบกล้วย ต้นกล้วย ขึ้นไปปล่อยจากท่าน้ำวัดบ้า นแดนเมือง ตรงวัดหลวง(รวมทั้งผู้เขียน ด้วย) ได้ขึ้นไปในเรือและก็ปล่อยเ รือไฟลงมา ตอนนี้ก็จะดับเครื่องเรือแล ้วปล่อยให้ไหลลงมาเรื่อยๆ ในความเงียบนี้เมื่อมาถึงแถ วท่าน้ำวัดหลวงก็จะเริ่มเห็ นมีสิ่งเหมือนลูกไฟผุดขึ้นมาจากใต้น้ำ เป็นลูกสีแดงอมชมพู ขึ้นสูงจากผิวน้ำประมาณ ๒-๓ วา แล้วก็ดับไปในอากาศ จะขึ้นจุดละ ๑ ลูก นานๆจะขึ้นลูกหนึ่งและก็เรื ่อยมา ที่ปากห้วยหลวงท่าวัดจุมพล และจะมีมากที่ท่าน้ำวัดไทย ซึ่งเป็นที่รวมของพระเณรและ ชาวบ้านที่มาร่วมกันเวียนเท ียน และอีกแห่งที่เห็นลูกไฟนี้คือ ท่าน้ำวัดจอมนาง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
ลูกไฟที่ว่านี้จะขึ้นก็ต่อเ มื่อบนฝั่งเงียบสงัด เกิดขึ้นในเวลาประมาณ ๓ ทุ่ม ไปจนถึงเที่ยงคืนก็คืน จะเกิดขึ้นลูกเดียวโดดๆจะเก ิดห่างกันหลายนาที และจะเกิดขึ้นเฉพาะในวันออก พรรษาเท่านั้น สมัยเมื่อปี ๒๕๑๖ ลงไป ลูกไฟนี้จะเกิดน้อยมาก แต่ชาวบ้านก็รอดูกันโดยการป ูเสื่อนั่งรอดูอยู่ตามวัดไท ย วัดจุมพล คนดูก็ไม่มาก บางคนก็หลับไปเพราะรอดูลูกไ ฟประหลาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น