วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

รามเกียรติ์ (จิตกรรมฝาผนังวัดโอกาสบัวบาน อ.เมือง จ.นครพนม)





นิลพัท

ทหารวานรกายสีดำเหลื่อม ยามเนรมิตร่างมีสี่พักตร์ แปดกรเหมือนกับหนุมาน เดิมเป็นลูกพระกาฬ พระอิศวรประทานมาให้ท้าวมหาชมพูกับนางแก้วอุดรมเหสีไร้ราชบุตรีแลโอรส มีแต่สนมยศบริวาร จึงมีฐานะเป็นโอรสเจ้าเมือง แต่งกายตามอย่างกษัตริย์ แต่ไม่สวมมงกุฎ ถือพระขรรค์เป็นอาวุธ

ศึกลงกาครั้งหลัง ท้าวจักรวรรดิจับพิเภกเจ้ากรุงลงกาองค์ใหม่จำตรุและให้ไพนาสุริยวงศ์ลูกตนสุดท้องของนางมณโฑและทศกัณฐ์ขึ้นครองแทน พระรามให้พระพรตและสตรุตสองอนุชาไปปราบเข็ญ ตอนนี้เองที่พญาวานรทั้งน้อยใหญ่ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ไปครองนครต่างๆเป็นบำเหน็จในงานสงครามครั้งที่แล้วได้ยกกำลังพลของตนมาประชุมพร้อมกันที่นครขีดขิน ในงานสงครามครั้งนี้นิลพัทได้มีบทบาทสำคัญๆอยู่เป็นอันมาก ดังได้แจ้งแจ้งอยู่ในรายงานความดีความชอบตอนปูนบำเหน็จเมื่อเสร็จศึกแล้วว่า

อันนิลพัทฤทธิรณ คุมพลชมพูชาญสมร ได้ทอดตนเป็นถนนในสาคร ให้ข้ามนิกรโยธี แล้วไปเก็บซึ่งโอสถ มาบดแก้พระสีตรุดเรืองศรี ทั้งผลาญมารกระบิลอสุรี สุดสิ้นชีวีแหลกลาญ เมื่อเหราพัดพาพระองค์ไป ก็ติดตามชิงชัยหักหาญ ทั้งไปล้างพิธีถึงบาดาล แล้วฆ่าไวยตาลมรณา ความชอบได้ทำเป็นสาหัศ พระรามจึงประทานศักดิ์ให้เป็นพญาอภัยพัทวงศ์ ตำแหน่งอุปราชกรุงชมพู และยังได้ให้มหามงกุฎทับทิมพราย สร้อยสนตาบทิศทับทรวง สังวาลแก้วรุ้งร่วงสามสาย พานพระศรีเต้าน้ำจำหลักลาย ธำมรงค์เพ็ชร์พรายเรืองสุบรรณ์




“หลังจากกุมภกรรณเข้าใจว่าพระลักษมณ์สิ้นชีพด้วยหอกโมกขศักดิ์ของตน กลับไปแจ้งแก่ทศกัณฐ์ ต่อมากองคอยเหตุของทศกัณฐ์กลับไปรายงานว่าพระลักษมณ์ฟื้นขึ้นได้ กุมภกรรณแค้นใจยิ่งนัก รู้ว่าพิเภกช่วยแก้กลจึงทูลลาไปทำพิธีทดน้ำมิให้ไหลไปทางพลับพลาพระราม หวังให้ไพร่พล อดน้ำตาย

พิเภกจับยามรู้ความ จึงทูลแนะให้พระรามส่งหนุมานไปหาทางทำลายพิธีอีก หนุมานรับอุบายแปลงกายเป็นเหยี่ยว ไปเที่ยวหาตัวนางกำนัลของกุมภกรรณที่มีหน้าที่ส่งดอกไม้ฆ่าเสีย แล้วปลอมเป็นนางนั้นลอบเข้าไปถึงพิธีมณฑลแล้วจึงกลับรูปดังเดิมเข้าต่อสู้กัน กุมภกรรณเสียทีเหาะหนีกลับไป

รุ่งขึ้นกุมภกรรณคุมพลออกรบกับพระรามถูกศรพรหมาสตร์ต้องอกล้มลง ก่อนสิ้นชีพแลเห็นพระรามเป็นองค์นารายณ์สำนึกผิดทูลขออภัยสั่งเสียพิเภกด้วยดี พระรามก็ทรงอโหสิให้”




ทรพี

เมื่อควายทรพีชัยต่อทรพาพ่อของตนแล้ว ก็กำเริบฤทธิ์ ออกจากฝูงเที่ยวลำพองไปจนถึงเขาหิมาลัย แล้วร้องว่าเหวยเทวา ใครมีศักดามาสู้กัน เทวดาที่นั่นไม่อยากรบด้วย เพราะกลัวแพ้ จึงบอกปัดให้ไปหาคู่รบเอาที่เขาเบญจกูฏ เทวดาทั้งห้าที่นั่นก็บอกปัดให้ไปสู้กับพระสมุทร และบอกหนทางให้ ข้างพระสมุทรก็รังเกียจที่จะสู้รบกับเดรัจฉาน จึงบอกปัดให้รบกับเทวดาใหญ่ที่เขาไกรลาศ ทรพีก็ไปจริงเหมือนกัน และไปร้องท้าพระอิศวรอยู่ลั่นๆ ข้างพระอิศวรก็ว่า มึงจะสู้กูไม่คู่พักตร์ แม้นรักจะใคร่ราวี เองจงรีบไปยุทธยง ด้วยพาลีลูกองค์โกษีย์ ให้มึงสิ้นชีพชีวี ด้วยฤทธีพระยาวานร แล้วจงไปเอากำเนิดยังเกิดเป็นบุตร์พระยาขร ชื่อมังกรกรรฐ์ฤทธิรอน ให้ตายด้วยศรพระจักรา

ฝ่ายทรพี ครั้นต้องคำสาปเจ้าโลกา เผอิญให้โมหาบ้าใจ จึงตรงไปยังเมืองขีดขินทันที อาละวาดขวิดสวนดอกไม้และสมุนกบี่ของพาลีแหลกลาญ แล้วบุกเข้าไปจนถึงหน้าพระลานไชย และร้องท้าพาลีให้มารบกัน พาลีรบกับทรพีกลางแปลง แต่เช้าถึงเย็น ยังไม่ได้ท่า ก็ชวนให้ไปรบกันในถ้ำ ด้วยเห็นว่าเป็นที่แคบพอจะฆ่าได้สะดวก รุ่งขึ้นพาลีไปที่ถ้ำ แลเห็นทรพียืนคอยอยู่ปากถ้ำแล้ว ก็เรียกไปรบกันในถ้ำ รบกันอยู่ถึงเจ็ดวันก็ยังไม่ได้ชนะ ก็นึกรู้ว่าคงมีเทวดารักษา จึงอุบายถามว่าเทวดาองค์ไหนช่วยให้มีฤทธิ์ ทรพีตอบด้วยความลบหลู่ว่า เทวันองค์ใดไม่สิงสู่ ตัวกูมีฤทธิ์ด้วยสองเขา พาลีจึงประกาศแก่เทวดาว่า ทรพีไม่รู้จักคุณเทวดา เสียทีที่ท่านเลี้ยงดู อย่าอยู่รักษาอ้ายอาธรรม์ เชิญไปสู่ทิพพิมาน สำราญด้วยนางสาวสวรรค์ ฟังเราว่าเถิดนะเทวัน จงชวนกันออกจากกายา เทวดาทั้งหกนั้นก็เห็นจริง จึงออกจากกายทรพีสำแดงตนให้พาลีเห็นเป็นรัศมีสว่างทั้งคูหา เมื่อเข้ารบกันอีกที ทรพีจึงล้มลึกคลุกคลานไม่ต้านติด จะต่อฤทธิ์วานรก็ไม่ได้ กำลังน้อยถอยทดสลดใจ เลือดไหลหยดย้อยทั้งกายา เมื่อได้ทีพาลีก็โผนเข้า เหยียบเขาพระยาทรพี มือซ้ายง้างเขายันยัน กรขวาแกว่งพระขรรค์ไชยศรี ฟาดด้วยกำลังฤทธี ทรพีก็ม้วยบรรลัย และโดนพาลีตัดเอาหัวขึ้นใส่บ่าแบกออกไปจากที่รบ

ทรพีตายแล้วก็ได้รับผลตามคำสาปของพระอิศวรทุกประการ ไปเกิดเป็นลูกพญาขร น้องทศกัณฐ์ งรัชฎาสูรแห่งกรุงโรมคัล ชื่อมังกรกัณฐ์ ซึ่งใจนั้นแกล้วกล้าสาฬส สมศักดิ์สมศรีสมยศ และมีน้องชื่อแสงอาทิตย์ ภายหลังตายด้วยศรพระรามในที่รบ เมื่อออกไปขัดตาทัพตามคำของทศกัณฐ์ เพื่อให้อินทรชิตทำพิธีชฐศรนาคบาศ




หนุมาน

เมื่อเสร็จศึกลงกาและทวยหาญทั้งน้อยใหญ่ได้รับบำเหน็จณรงค์กัน หนุมานได้สมญาศักดิ์เป็นพญาอนุชิตจักรกฤษณพิพรรธพงศา และได้ผ่านกรุงอยุธยาตามที่พระรามได้ประกาศวาจาไว้ แต่ทว่า ขึ้นนั่งยังที่บัลลังก์รัตน์ ภายใต้เศวตฉัตร์ฉายฉัน ได้เร่าร้อนฤทัยดังไฟกัลป์ ตัวสั่นหน้าซีดลงทันที พ่างเพียงเศียรกล้าจะทำลาย เสโทซึมกายกบี่ศรี เหลือบแลไปดูหมู่เสนี ดังมีศรแสงมาแทงตา... จึงไม่เป็นอันได้ว่าราชกิจ แล้วก็แจ้งด้วยปรีชาอันส่องไว กูเป็นทหารมาร่วมอาศน์ พระนารายณ์พิราชหาควรไม่ จึงบังเกิดเหตุเภทภัย ด้วยศักดิ์ศรีมิได้ มาตร์แม้นจะนั่งอยู่ช้า น่าที่ชีวาจะอาสัญ... ร้อนถึงต้องทูลขอเมืองใหม่ พระรามแผลงศรให้พญาอนุชิตตามไป ตกที่ไหนให้กลับไปทูล จะได้เสด็จยกพลบไปกำหนดเขตสร้างเมืองให้เป็นเกียรติยศ ครั้นศรตกที่เขาเก้ายอด(นพคีรี)และทำลายเขาทั้งเก้านั้นเตียนราบลงหมด พญาอนุชิตก็ลงไปเอาหางกวาดให้เป็นกำแพงกั้นเขตแดนไปทั่วทิศ แล้วกลับไปทูล พระรามตรัสว่าเมื่อกำหนดเขตแดนเสียเองแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะเสด็จไปทำอะไรอีก จึงเพียงแต่ขนานนามเมืองให้ว่านพบุรีตามนิมิตแห่งภูเขาเก้ายอด และแบ่งราชสมบัติกึ่งหนึ่งแก่พญาอนุชิต




หนุมานจองถนน

ฝ่ายพระรามคิดจะปราบเหล่ายักษ์ให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว ชามพูวราช ได้ทูลว่า การที่พระรามจะข้ามไปลงกาด้วยฤทธิ์อำนาจที่เหล่าทหารขันอาสานั้นย่อมทำได้ แต่จะทำให้เสียพระเกียรติยศ ควรจะให้ไพร่พลนำเอาหินไปทิ้งเพื่อสร้างถนนในมหาสมุทร พระรามจึงสั่งให้สุครีพพาไพร่พลไปเร่งสร้างถนน โดยให้นิลพัทควบคุมไพร่พลเมืองชมพู หนุมานควบคุมไพร่พลเมืองขีดขิน นิลพัทนั้นแค้นหนุมานมาแต่เดิมแล้ว ได้โอกาสล้างแค้นจึงแสดงฤทธิ์ เอาเท้าคีบเขาหิมวันต์ สองมือชูเขาคิรินทร เหาะมาแล้วบอกให้หนุมานคอยรับ นิลพัทจึงทิ้งภูเขาลงมาทั้งสองลูกหวังให้ถูกหนุมาน แต่หนุมานรับไว้ได้ จึงคิดแก้ลำบ้าง โดยไปหักยอดเขา และนำหินก้อนมหึมาผูกตามขน แล้วให้นิลพัทรับบ้าง นิลพัทเห็นจึงขอให้หนุมานโยนมาทีละก้อน หนุมานว่า ทีนิลพัทแกล้งทิ้งมาพร้อมกันหวังให้ตาย แล้วทิ้งหินทั้งหมดลง นิลพัทใช้มือและเท้ารับไว้ได้ หนุมานหาว่านิลพัทสบประมาทตน และได้ท้าวความถึงท้าวชมพูที่มีฤทธิ์มาก ตนยังจับมาได้ นับประสาอะไรกับนิลพัท

นิลพัทโกรธท้าหนุมานต่อสู้ดังกึกก้อง พระรามได้ยินคิดว่าเหล่าลิงรบกับยักษ์ ให้พระลักษมณ์ไปดู แล้วจึงพาสุครีพ หนุมาน และนิลพัท เฝ้าพระราม พระรามโกรธ สุครีพจึงทูลแก่พระรามว่า ควรจะแยกทั้งคู่ให้ห่างกัน โดยให้หนุมานอยู่กับพระราม ส่วนนิลพัทให้กลับไปช่วยท้าวชมพูดูแลเมืองขีดขิน ทำหน้าที่ส่งเสบียงให้กองทัพเดือนละครั้ง ถ้าขาดราชการจะประหารเสีย ฝ่ายพระรามได้สั่งให้หนุมานจองถนนไปกรุงลงกาเสร็จภายในเจ็ดวัน หากไม่เสร็จจะประหารชีวิต

ทศกรรฐ์รู้ข่าวการจองถนน คิดถึงภัยข้างหน้า จึงให้นางสุพรรณมัจฉาบุตรี นำเหล่าบริวารปลาขนหินไปทิ้งกลางทะเลลึกไม่ให้ถนนเสร็จได้ จนเป็นที่ผิดสังเกตของสุครีพว่า ทิ้งหินลงไปมาก แต่ยุบหายไปหมด ให้หนุมานลงไปดูก็พบนางสุพรรณมัจฉาและได้นางเป็นเมีย นางจึงช่วยขนหินกลับมาตามเดิม ถนนจึงเสร็จ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น